ทำความเข้าใจสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพื่อวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด
การรู้จักสิทธิ์ลดหย่อนภาษีช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ทั้งลดภาระภาษีและบริหารเงินให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ บทความนี้จะแนะนำวิธีคำนวณและข้อควรรู้ เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอย่างคุ้มค่าและถูกต้อง

การลดหย่อนภาษีคืออะไร?
การลดหย่อนภาษีคือสิทธิพิเศษที่กฎหมายมอบให้ผู้มีรายได้เพื่อหักค่าใช้จ่ายบางส่วนออกจากรายได้ก่อนคำนวณภาษี ช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายและเพิ่มโอกาสในการออมหรือลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้สูง สิทธิ์นี้ช่วยจัดการค่าใช้จ่ายภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใครต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา?
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคำนวณแบบขั้นบันไดตามรายได้:
- รายได้รวมต่ำกว่า 150,000 บาท/ปี: เสียภาษี 0% (ยกเว้น)
 - รายได้ 150,001 – 300,000 บาท/ปี: 5%
 - รายได้ 300,001 – 500,000 บาท/ปี: 10%
 - รายได้ 500,001 – 750,000 บาท/ปี: 15%
 - รายได้ 750,001 – 1,000,000 บาท/ปี: 20%
 - รายได้ 1,000,001 – 2,000,000 บาท/ปี: 25%
 - รายได้ 2,000,001 – 5,000,000 บาท/ปี: 30%
 - รายได้เกิน 5,000,000 บาท/ปี: 35%
 

ประเภทสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
สิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่กฎหมายกำหนดช่วยลดภาระภาษีให้ผู้มีรายได้ โดยอนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายบางส่วนจากรายได้ก่อนคำนวณภาษี มาดูประเภทสำคัญที่ควรรู้กันค่ะ
กลุ่มบุคคลธรรมดา
สิทธิ์สำหรับบุคคลธรรมดามีหลากหลาย พร้อมเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น:
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: 60,000 บาท
 - คู่สมรส (ไม่มีรายได้): ลดหย่อนได้ 60,000 บาท
 - บุตร (อายุไม่เกิน 20 ปี หรือ 25 ปีหากกำลังศึกษา): 30,000 บาท/คน (บุตรคนที่ 2 ขึ้นไปตั้งแต่ พ.ศ. 2561: 60,000 บาท/คน)
 - ฝากครรภ์และคลอดบุตร: สูงสุด 60,000 บาท (ตามจริง)
 - บิดามารดา (อายุเกิน 60 ปี): 30,000 บาท/คน
 - ผู้พิการหรือทุพพลภาพ: 60,000 บาท/คน
 
กลุ่มกิจกรรมการเงิน
สิทธิ์จากกิจกรรมการเงินช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเงินส่วนตัว เช่น:
- เบี้ยประกันสุขภาพ: สูงสุด 25,000 บาท
 - เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา: สูงสุด 15,000 บาท/คน (ตามจริง)
 - เบี้ยประกันชีวิต/สะสมทรัพย์: สูงสุด 100,000 บาท (รวมกับประกันสุขภาพไม่เกิน 100,000 บาท)
 - เบี้ยประกันสังคม: สูงสุด 9,000 บาท
 - กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (RMF): สูงสุด 500,000 บาท (ไม่เกิน 30% ของรายได้)
 - กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF): สูงสุด 200,000 บาท (ไม่เกิน 30% ของรายได้)
 - กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG): สูงสุด 300,000 บาท (ไม่เกิน 30% ของรายได้)
 - เบี้ยประกันบำนาญ: สูงสุด 200,000 บาท (ไม่เกิน 15% ของรายได้)
 - กองทุนบำเหน็จข้าราชการ: สูงสุด 500,000 บาท (ไม่เกิน 30% ของรายได้)
 - เงินกองทุนการออมแห่งชาติ: สูงสุด 500,000 บาท (ตามจริง)
 - ดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย: สูงสุด 100,000 บาท
 - ค่าสร้างบ้านใหม่ (2567-2568): 10,000 บาท/ล้านบาท (สูงสุด 100,000 บาท)
 - ค่าซ่อมบ้านน้ำท่วม (2567): สูงสุด 100,000 บาท (ตามจริง)
 - ค่าซ่อมรถน้ำท่วม (2567): สูงสุด 30,000 บาท (ตามจริง)
 
กลุ่มเงินบริจาค
การบริจาคช่วยสังคมและลดภาษีได้ เช่น:
- บริจาคทั่วไป: สูงสุด 10% ของรายได้หลังหักลดหย่อน
 - บริจาคการศึกษา/กีฬา/สาธารณประโยชน์: 2 เท่าของจำนวน (สูงสุด 10% ของรายได้หลังหักลดหย่อน)
 - สนับสนุนพรรคการเมือง: สูงสุด 10,000 บาท
 
กลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
นโยบายรัฐช่วยส่งเสริมการใช้จ่าย เช่น:
- เที่ยวเมืองรอง (2567): สูงสุด 15,000 บาท
 - โครงการช้อปดีมีคืน: สูงสุด 50,000 บาท
 - ดอกเบี้ยกู้ที่อยู่อาศัย: สูงสุด 100,000 บาท
 

กลุ่ม Easy E-Receipt (2568)
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบ่งเป็น:
- ลดหย่อนได้ไม่เกิน 20,000 บาท
- สินค้า OTOP
 - สินค้าหรือบริการวิสาหกิจชุมชน (จดทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร)
 - สินค้าหรือบริการวิสาหกิจเพื่อสังคม (จดทะเบียนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม)
 
 - ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท
- สินค้าหรือบริการจากผู้จด VAT (ต้องมี e-Tax Invoice)
 - สินค้าหรือบริการจากผู้ไม่จด VAT (ต้องมี e-Receipt)
 
 - ไม่เข้าร่วม
- สุรา เบียร์ ไวน์
 - ยาสูบ
 - น้ำมัน ก๊าซ ค่าประจุไฟฟ้า
 - รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ
 - สาธารณูปโภค (ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต)
 - บริการเกินระยะเวลา
 - เบี้ยประกันวินาศภัย
 - ทัวร์และที่พัก
 
 

ตัวอย่างคำนวณภาษีหลังลดหย่อน
สมมติ นาย C มีรายได้ 600,000 บาท/ปี:
- รายได้รวม: (25,000 x 12) + 100,000 + 200,000 = 600,000 บาท
 - ค่าใช้จ่ายเหมารวม: 100,000 บาท (สูงสุด 50% ของรายได้ประจำ)
 - ลดหย่อน: 30,000 (บุตร) + 15,000 (ประกันชีวิต) + 10,000 (บริจาค) = 55,000 บาท
 - รายได้สุทธิ: 600,000 – 100,000 – 55,000 = 445,000 บาท
 - ภาษี: 445,000 x 10% = 44,500 บาท
 
เอกสารที่ต้องใช้
- หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
 - ใบกำกับภาษี (Tax Invoice)
 - หนังสือรับรองเบี้ยประกัน
 - หนังสือรับรองกองทุน RMF
 - หนังสือรับรองดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย
 

สถานที่ยื่นภาษี
ยื่นระหว่าง 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 2569 (สำหรับปี 2568) ที่:
- สำนักงานสรรพากรพื้นที่
 - เว็บไซต์กรมสรรพากร (https://www.rd.go.th/)
 
สรุป
สิทธิ์ลดหย่อนภาษีครอบคลุมการใช้จ่ายส่วนตัว การออม บริจาค และนโยบายรัฐ วางแผนการใช้สิทธิ์ตั้งแต่ต้นปีเพื่อลดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกงานที่มีสวัสดิการที่สนับสนุนการลดหย่อนเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ทางการเงินค่ะ